จัดระเบียบชีวิต

จัดระเบียบชีวิตให้ง่ายขึ้น …ง่ายนิดเดียว!

ทุกวันนี้ภาระหน้าที่การงานต่างขโมยเวลาเราไปจนหมดสิ้น และกำลังเริ่มต้นขโมยชีวิตของเราไปด้วย ไม่ว่าคุณจะเป็นพนักงานธรรมดาคนหนึ่ง หรือเจ้าของธุรกิจ คุณต้องการการ จัดระเบียบชีวิต พร้อมเทคนิคการบริหารเวลา ที่จะทำให้คุณสามารถควบคุมทุกอย่างในชีวิตให้อยู่ในร่องในรอย สามารถจัดการทุกอย่างให้ประสบความสำเร็จได้ดังต้องการ โดยไม่ต้องเสียสติ และข้อสำคัญก็คือมีความสุขมากขึ้นด้วย

จัดระเบียบชีวิต … เริ่มต้นตรงนี้

12 เคล็ดลับง่าย ๆ เพื่อการเริ่มต้น จัดระเบียบชีวิต ตัวเอง

  1. จดโน้ต หาสมุดโน้ตและปากกาเอาไว้ใกล้มือ ไม่ว่าคุณจะอยู่ตรงไหนก็ตามเพื่อจดไอเดียและสิ่งต่าง ๆ ที่จะทำแทนที่จะพยายามไปนึกมันเอาทีหลัง
  2. จัดเวลาให้โทรศัพท์ทุกสาย บอกคนที่โทรหาคุณด้วย คุณจะได้ไม่ต้องเครียดไปกับการพยายามจบบทสนทนา และช่วยให้คนที่โทรเข้ามารีบสรุปข้อมูลให้เร็วที่สุด
  3. ใช้เวลาระหว่างการรอ อย่าปล่อยให้เวลาของการรอคอยผ่านไปอย่างน่าเบื่อและเปล่าประโยชน์ หาอะไรมาทำเวลาที่คุณมีนัดหมายที่จำเป็นต้องรอ แม้จะแค่การได้อ่านหนังสือที่อยากอ่าน ก็ถือว่าคุณได้ใช้เวลาอย่างมีประสิทธิภาพแล้ว
  4. รับรู้ทุกความช่วยเหลือ ให้แน่ใจว่าได้แสดงความชื่นชมผู้ใต้บังคับบัญชา เพื่อนร่วมงาน หรือคนในครอบครัว สำหรับทุกความพยายามที่คุณเห็นว่าพวกเขาทำให้ แล้วเขาจะมีความสุขที่จะช่วยคุณอีกในยามที่คุณต้องการ
  5. อย่าผัดผ่อน ถ้าคุณผัดวันประกันพรุ่ง คุณก็มีแต่จะเครียดยิ่งขึ้น เมื่อคิดว่าช่างน่าเบื่อแค่ไหนที่ต้องทำในสิ่งที่ไม่ชอบ ปัดความคิดนั้นออกไปซะ และเริ่มต้นทำงานที่ไม่ชอบก่อน เมื่อทำมันจนจบลงได้ งานอื่นก็จะปลอดโปร่งแล้ว
  6. แบ่งงาน ที่คุณไม่มีเวลาทำ หรือร่วมมือกับคนอื่นที่สามารถช่วยคุณได้
  7. วางแผนทุกย่างก้าว คิดหาทางที่จะทำให้คุณไม่ต้องเปลืองเวลาไปกับการทำงานทุกอย่าง ไม่ว่าจะแค่การเดินไปหยิบเอกสารชิ้นนี้ในห้องโน้น และไปหยิบอีกชิ้นที่ห้องนี้ เปลี่ยนมาจัดมันไว้ด้วย จะได้ไม่ต้องเดินกลับไปกลับมา
  8. จัดตารางความสนุก ให้แน่ใจว่าคุณจัดเวลาส่วนตัวเอาไว้ด้วย เผื่อเวลาไว้ในตารางงาน ให้มันเป็นนัดหมายกับตัวเอง และรักษามันไว้ให้ได้ ถึงแม้จะเป็นแค่เวลา 20 นาที สำหรับการแช่น้ำอาบ หรือ 15 นาทีสำหรับการไปเดินเล่น
  9. เคลียร์พื้นที่ สำรวจและเคลียร์เอกสารเก่า ๆ เพื่อที่จะได้มีพื้นที่ในที่เก็บเอกสารสำหรับของใหม่ ๆ
  10. ครั้งเดียว เอกสารแต่ละอย่างต้องจับเพียงแค่ครั้งเดียว อ่าน แล้วก็เก็บเข้าแฟ้ม หรือส่งต่อไปให้คนอื่น จัดตาราง หรือไม่ก็ทิ้งมันไปซะ อย่าเอามันไปกองรวมไว้กับกองเอกสารที่ไม่มีวันสิ้นสุดบนโต๊ะของคุณ ด้วยความหวังว่าคุณจะได้จัดการกับมันในท้ายที่สุด
  11. ใช้โพสต์อิท เพื่อเขียนเรื่องจิปาถะที่ต้องทำ ติดไว้ที่ประตู้หน้าเพื่อเตือนตัวเองตอนออกจากบ้าน
  12. สร้างระบบ เราใช้เวลามากเกินไปในแต่ละวันในการหาของต่าง ๆ หาระบบอะไรก็ตามที่ได้ผลสำหรับคุณและชีวิตคุณ และเอามาใช้อย่างเต็มที่ คุณจะพบว่าตัวเองมีเวลามากขึ้นอย่างที่ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมี

มีเวลาแค่ไหนก็ไม่พอ ถ้าไม่รู้จักการ “บริหารเวลา”

คุณใช้เวลาท่ามกลางกิจกรรมที่วุ่นวาย และสงสัยว่าทำไมทำอะไรไม่เสร็จสักที เคล็ดลับการบริหารเวลาต่อไปนี้จะเพิ่มผลงาน และทำให้คุณใจเย็นและมีสติมากขึ้น

  1. ต้องรู้ว่าการบริหารเวลาเป็นความเชื่อผิด ๆ

ไม่ว่าคุณจะจัดระเบียบเก่งแค่ไหน เราก็มีเวลาแค่ 24 ชั่วโมงในหนึ่งวัน เวลาไม่เคยเปลี่ยน ทั้งหมดที่เราทำได้ก็คือการจัดการตัวเอง และสิ่งที่เราทำด้วยเวลาที่เรามี

  1. หาให้ได้ว่าคุณเสียเวลาไปตรงไหน

เราส่วนใหญ่เป็นเหยื่อของการเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์ ที่ขโมยเวลาเราไปจนไม่อาจทำงานได้มากขึ้น อะไรคือโจรขโมยเวลาของคุณ คุณใช้เวลามากเกินไปในการท่องอินเตอร์เน็ต อ่านอีเมล หรือโทรศัพท์เรื่องส่วนตัว ลองตามรอยกิจกรรมประจำวันของคุณ เพื่อดูว่าวันหนึ่ง ๆ คุณทำอะไรบ้าง จะเป็นขั้นตอนแรกในการบริหารเวลาที่มีประสิทธิภาพ

  1. สร้างเป้าหมายในการบริหารเวลา

จำไว้ว่าการโฟกัสเรื่องการบริหารเวลาที่จริงแล้ว เป็นการเปลี่ยนพฤติกรรมของคุณ ไม่ใช่เปลี่ยนเวลาจุดเริ่มต้นที่ดีที่สุด ก็คือการกำจัดสิ่งที่ทำให้คุณเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์ในแต่ละวัน แล้วดูว่าอะไรจะเกิดขึ้น

  1. วางแผนและใช้ให้ได้จริง

คุณต้องไม่เพียงแค่ตั้งเป้าหมาย แต่ต้องตามติดดูมันตลอดเวลา เพื่อดูว่าคุณประสบความสำเร็จหรือไม่ หรือคุณอยู่ตรงไหนแล้วของเป้าหมายของคุณ

  1. ใช้เครื่องมือในการบริหารเวลา

ขั้นตอนแรกของการบริหารเวลาจริง ๆ ก็คือการรู้ว่าคุณจะใช้เวลายังไงในอนาคต โปรแกรมหรือซอฟท์แวร์ต่าง ๆ ที่สามารถให้คุณตั้งตารางเวลาอย่างง่าย ๆ และตั้งเตือนได้ล่วงหน้า จะทำให้การบริหารเวลาของคุณง่ายขึ้น

  1. จัดลำดับความสำคัญแบบไร้ความปรานี

คุณควรเริ่มต้นแต่ละวันด้วยการจัดลำดับความสำคัญของวันนั้น และตั้งเกณฑ์ให้กับความสำเร็จในวันนั้น ถ้าคุณมีภาระต้องทำ 20 อย่างในวันนั้น มันต้องทำให้เสร็จจริง ๆ สักกี่งานกัน? ตัดสินและฟันธงไปเลย

  1. เรียนรู้ที่จะแบ่งงานหรือหาคนข้างนอกมาช่วยทำ

ไม่ว่าธุรกิจของคุณจะเล็กแค่ไหน ก็ไม่จำเป็นต้องเป็นวันแมนโชว์ คุณต้องปล่อยให้คนอื่นเขามาช่วยแบกรับบ้าง ลองแยกแยะว่างานไหนที่คุณควรแบ่งเบาออกไป หรือจ้างคนอื่นทำ อ่านต่อได้ที่ >>  วิธีแบ่งงานกันทำ

  1. สร้างกิจวัตรประจำวัน

และยึดติดกับมันให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เมื่อมีวิกฤตเกิดขึ้น คุณจะทำงานได้ดีกว่า ถ้าคุณมีกิจวัตรที่สามารถดำเนินไปได้ในแต่ละวัน

  1. สร้างนิสัยในการกำหนดเวลาสำหรับแต่ละภารกิจ

ตัวอย่างเช่น การอ่านหรือตอบอีเมลที่กินเวลาทั้งวันถ้าคุณปล่อยไปตามสบาย ตั้งกำหนดเวลาหนึ่งชั่วโมงที่จะทำภารกิจเหล่านี้ แล้วก็ยืดมันไว้ให้ได้มากที่สุด

  1. ให้แน่ใจว่าระบบของคุณเป็นระเบียบพอ

คุณต้องเสียเวลาเป็นชั่วโมงเพื่อหาไฟล์ในคอมพิวเตอร์ของคุณหรือเปล่า หาเวลาที่จะบริหารไฟล์งานต่าง ๆ ถ้าระบบการจัดเก็บเอกสารของคุณทำให้คุณช้าลง ก็จัดมันใหม่ ให้มันเป็นระเบียบมากพอที่คุณจะได้ทุกอย่างที่ต้องการอย่างรวดเร็วในเวลาที่ต้องการ

จัดระเบียบชีวิต ให้ง่ายขึ้น! เพียงแค่รู้จัก หาเวลา

ใครบ้างไม่อยากให้มีเวลามากขึ้นในแต่ละวัน แต่บางทีมันก็ดูเหมือนว่า เราใช้เวลามากมายในการเร่งรีบจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง จนดูเหมือนจะไม่ประสบความสำเร็จอะไรสักอย่าง เพื่อที่จะมีเวลามากขึ้นทั้งหมดที่คุณต้องทำก็คือหาเวลาให้มากขึ้น ซึ่งทำได้ด้วยการใช้เทคนิคการบริหารเวลาเหล่านี้ ขอเตือนว่ามันไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ ที่จะทำ แต่เมื่อคุณเรียนรู้ที่จะฝึกฝนมัน มันจะกลับคืนมาเป็นพันเท่า พร้อมนะ!

  1. รับรู้ว่าคุณไม่สามารถทำได้ทุกอย่าง

เราส่วนใหญ่มักยึดติดกับความเชื่อผิด ๆ ที่ว่า เราทุกคนสามารถทำได้ทุกอย่าง เราทุกคนสามารถทำงานเต็มเวลา ใช้เวลากับลูก ๆ ครอบครัว เพื่อน แถมยังมีเวลาทำงานเพื่อสังคม และดูแลตัวเองได้ด้วย ความคิดเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องผิด แต่ความเชื่อว่าเราต้องทำ และสามารถทำทุกอย่างได้อย่างราบรื่นนั่นแหละ คืออุปสรรคสำคัญของเราในการประสบความสำเร็จ คุณต้องตัดสินใจว่า บทบาทไหนหรือกิจกรรมไหนที่สำคัญสำหรับคุณมากกว่า และเดินไปตามทางนั้น

  1. จัดลำดับความสำคัญ

อีกส่วนหนึ่งของความเชื่อผิด ๆ ว่า เราทุกคนสามารถและควรทำทุกอย่างก็คือ ทุกอย่างสำคัญเท่ากันหมดมันไม่ใช่อย่างนั้น ลองดูปฏิทินในแต่ละวันของคุณ การไปเอาเสื้อที่ซักแห้งไว้สำคัญเท่ากับการประชุมกับลูกค้าจริง ๆ หรือ? ไม่หรอกใช่มั๊ย ฉะนั้น ถ้าคุณจำเป็นต้องเลือกระหว่างสองอย่างนี้ มันก็ง่ายมากที่จะตัดสินใจที่จะทิ้งผ้าซักแห้งไว้ก่อนเพื่อมาเอาวันหลัง ฉะนั้น อย่าเอาแต่วิ่งวุ่นจากภารกิจหนึ่งไปสู่อีกภารกิจหนึ่ง

  1. เรียนรู้ที่จะตอบรับและปฏิเสธ

ความไม่สามารถที่จะพูดว่า “ไม่” เป็นสาเหตุของความไม่เข้าใจและความหงุดหงิดมากมายหลายอย่างเลย แทนที่จะพูดว่า “ไม่” คนเราชอบพูดว่า “บางที” หรือ “ชั้นอาจทำได้นะ” หรือ “จะดูก่อน” มันทั้งสร้างความคาดหวังว่าพวกเขาจะทำอะไรก็ตามให้กับคนฟัง และสร้างความกดดันให้คนพูดด้วย จากนั้นเมื่อพวกเขาไม่ได้ทำ คนที่พวกเขาพูดว่า “บางที” แทนจะเป็นคำว่า “ไม่” ก็จะผิดหวัง เสียใจ และหงุดหงิด ตั้งเป็นกฎเอาไว้เลยว่าจะไม่พูดว่า “บางที” เวลาที่คุณถูกขอให้ทำอะไรก็ตาม เรียนรู้ที่จะตัดสินใจอย่างรวดเร็ว และบอกว่า “ได้” หรือ “ไม่ได้” แทน และอย่าติดกับการอธิบายอะไร คุณไม่จำเป็นต้องให้เหตุผลอะไรกับการตัดสินใจของคุณมากมาย ก็แค่บอกง่าย ๆ ว่า “ฉันทำไม่ได้หรอกค่ะ” ก็พอ คนที่คุณคุยด้วยอยู่ก็จะประทับใจในความจริงใจของคุณ และความที่คุณไม่อยากให้เขาเสียเวลา และคุณก็จะไม่มีแรงกดดันที่จะต้องเพิ่มกิจกรรมอะไรที่คุณไม่ได้สนใจมันเลยเข้าไป

  1. ถอดปลั๊ก

เป็นไอเดียโง่ ๆ ของคนยุคใหม่ว่าเราทุกคนต้องติดต่อได้เสมอตลอดเวลา ที่จริงนะไม่ต้องก็ได้ ยกเว้นกับคน หรืองานที่อยู่ตรงหน้าเรา ตัวอย่างเช่น ถ้าลูกเล่าถึงเรื่องร้ายกาจที่เกิดกับเขาที่โรงเรียน หรือคุณกำลังประเมินลูกค้ารายสำคัญ คุณต้องฟัง และสื่อสารกับคนที่อยู่ตรงหน้าคุณ ไม่ใช่คนที่โทรมาหรือส่งอีเมลมาฉะนั้น ถอดปลั๊กให้ตัวเองบ้างในเวลาที่เหมาะสม ให้ตัวเองเป็นผู้จัดการเทคโนโลยี แทนที่จะให้มันจัดการเรา อย่าอ่านอีเมลทุกอย่างทันทีที่เข้ามา หรือรู้สึกว่าคุณต้องรับโทรศัพท์ทุกสายด้วยตัวเอง อย่าให้ข้อความที่เข้ามารบกวนคุณเวลาทำงาน แต่หาเวลาพิเศษในแต่ละวันเพื่ออ่านหรือตอบอีเมล หรือโทรศัพท์

  1. หาเวลานอก

นักธุรกิจจำนวนมากตกหลุมพรางการทำงานเจ็ดวันกันทั้งนั้น พวกเขารู้สึกว่ายิ่งให้เวลากับธุรกิจมากแค่ไหน ก็ยิ่งจะประสบความสำเร็จมากเท่านั้น กว่าจะรู้ตัว พวกเขาก็ทำงานสัปดาห์ละเจ็ดวันกันแล้ว และก็สงสัยว่าทำไมถึงได้รู้สึกตึงเครียดตลอดเวลา แล้วธุรกิจของเขาประสบความสำเร็จมากขึ้นด้วยหรือเปล่า? อาจจะหรืออาจจะไม่ก็ได้นะ ความสำเร็จของธุรกิจขึ้นอยู่กับสิ่งที่เราทำ ไม่ใช่ว่าเราใช้เวลาทำมันมากแค่ไหน ลองคิดดูว่า ถ้าคุณใช้เวลาวันละ 8 ชั่วโมงเล่นกอล์ฟ แต่ถือไม้กอล์ฟผิดตลอดเวลา แล้วคุณจะเล่นเก่งมั๊ยล่ะ? เพราะฉะนั้นจำนวนเวลาไม่สำคัญเท่าว่าคุณกำลังทำมันอย่างถูกต้องหรือเล่า ฉะนั้น หาเวลาว่างให้ตัวเองบ้าง ไม่ว่าจะมากน้อยแค่ไหน คุณจะกลับไปทำงานอย่างสดชื่น ทำผลงานได้มากกว่า และสามารถประสบผลสำเร็จมากกว่าในจำนวนเวลาที่เหมาะสม

Pic :Pexel

Share this :

One thought on “จัดระเบียบชีวิตให้ง่ายขึ้น …ง่ายนิดเดียว!

  1. Pingback: Top 12 จัด ระเบียบ ชีวิต - Học Điện Tử Cơ Bản

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ten − seven =