พลังความงามของผลไม้

พลังความงามของผลไม้แต่ละชนิด

    พลังความงามของผลไม้ …แต่ละชนิด (The Power of fruit)

ทุกคนรู้ดีว่าผลไม้นั้นมีสรรพคุณมากมาย อุดมไปด้วยวิตามิน และแร่ธาตุ ซึ่งสาวหลาย ๆ คนนั้นนอกจากจะทานเพื่อความอร่อยแล้ว นั้นยังหวังความสวยของเรานั้นอยู่คู่กับเราไปตราบนานเท่านาน แต่หารู้ไม่ว่าผลไม้แต่ละชนิดนั้นมีสรรพคุณที่แตกต่างกันออกไป บางชนิดมีวิตามิน และแร่ธาตุแบบหนึ่ง บางชนิดมีอีกแบบหนึ่ง วันนี้เราจะแนะนำสรรพคุณของผลไม้เพื่อให้สาว ๆ หลาย ๆ คน ได้รู้ถึง พลังความงามของผลไม้ ในแต่ละชนิดกันค่ะ

  1. สตรอเบอร์รี่ – ขุมทรัพย์ของวิตามิน C ที่ทำให้ผิวสวยได้จริง

ส่วนผสมหลักของวิตามิน C ถ้ากิน 7-8 ผลก็จะครอบคลุมปริมาณการบริโภคที่จำเป็นได้ใน 1 วัน วิตามิน C เป็นตัวช่วยหลักที่จะสร้างผิวสวย ช่วยสร้างคอลลาเจนป้องกันรอยย่นและรอยกระได้ และมีประสิทธิภาพด้านไวท์เทนนิ่งด้วย นอกจากนี้ยังป้องกันฟันผุได้ดีด้วยสารไซลิทอล   

  1. แอปเปิ้ล – แก้อาการท้องผูกด้วยเส้นใยอาหารที่มากมาย

เส้นใยอาหาร สารเพกทิน ช่วยแก้อาการท้องผูกและนำไปสู่ลำไส้ที่สบาย นอกจากนี้ก็ยังมีสารโพลีฟีนอลที่สร้างผิวสวยชุ่มฉ่ำและมีชีวิตชีวา สารโปแตสเซียมที่ป้องกันอาการบวมน้ำ และเป็นผลไม้ที่เหมาะในช่วงไดเอ็ตอีกด้วย

  1. ราสป์เบอร์รี่ – ผลไม้ที่พึ่งพาได้ในตอนที่ประจำเดือนมาไม่ปกติ

สารอาหารหลักคือกลุ่มแร่ธาตุอย่างเช่นวิตามิน C และโปแตสเซียม นอกจากนี้จะแก้อาการบวมน้ำ ทำให้ผิวสวยและผิวขาวแล้ว จะฟื้นคืนความเหนื่อยล้าด้วยกรดซิทริค นอกจากนี้ กรดซิทริคจะทำงานในการปรับประจำเดือนที่มาไม่ปกติและบรรเทาอาการปวดท้องประจำเดือนด้วย เป็นของวิเศษที่ทำให้สาว ๆ ดีใจได้

  1. ทับทิม – เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย ที่ไม่มีใครรู้ว่า “ทับทิม” สำหรับสาวสวย

ความนิยมของน้ำสายชูทับทิมของเกาหลี Biyoodaikoku ที่มีชื่อเสียงมาก มีประสิทธิภาพในการป้องกันสิวและผิวแห้งแตกซึ่งอยู่ในวิตามิน C ที่เป็นส่วนผสมหลัก และอุดมไปด้วยสารโปแตสเซียมที่จะบรรเทาอาการบวมน้ำ จึงขอแนะนำให้ทานในช่วงมีประจำเดือน นอกจากนั้นสารเอสโตรเจนจะร่วมทำงานเพื่อการแก้ประจำเดือนที่มาไม่ปกติด้วย

  1. เชอร์รี่ – บทตัวประกอบชื่อดังที่ให้สมดุลที่ดี

เชอร์รี่มีสารอาหารสมดุลสูง อย่างเช่น..ธาตุเหล็กที่ให้ผลดีในการป้องกันโลหิตจาง แคลเซียมที่มีประโยชน์ในการคลายเครียด สารแคโรทีนและวิตามิน C ที่มีปะสิทธิภาพในการสร้างผิวสวยที่ชุ่มฉ่ำและเพิ่มอัตราการดูดซึมด้วยการผสมกับผลไม้ชนิดอื่น ๆ

  1. มะเดื่อ – ถูกเรียกว่าเป็นผลไม้สำหรับสาวสองพันปี

ในมะเดื่อนั้นจะมีเส้นใยอาหารที่ชื่อเพกทินอยู่มากมาย ทำให้เห็นผลทันตาในประสิทธิภาพการแก้อาการท้องผูก และมีการทำงานที่ช่วยทำให้แอลกอฮอล์และโปรตีนแตกตัวอยู่ในเอมไซม์ที่มีมากมาย ป้องกันอาการเมาค้าง นอกจากนี้ถ้ากินพร้อมกันกับอาหารประเภทเนื้อจะช่วยป้องกันการแน่นท้องในวันรุ่งขึ้นด้วย

  1. ส้ม – ทำให้ดูดซึมเส้นใยอาหารได้ง่าย

ส้มที่มีผิวบางเกินได้ง่ายนั้นจะเติมวิตามิน C ที่จำเป็น ควรกินวันละ 2 ผล นอกจากนี้ยังมีวิตามิน  B ที่ทำให้ผิวแข็งแรงด้วย เส้นใยอาหารที่มีประสิทธิภาพในการแก้อาการท้องผูกนั้นจริง ๆ แล้วมีอยู่มากมายในเส้นใยและเปลือกบาง ๆ กรุณาทานอย่าให้เหลือนะคะ

  1. ลูกพลับ – ภูมิใจในคุณค่าสารอาหารสูงที่จะสร้างผิวขาวสวย

อาจคิดว่าเหลือเชื่อ แต่จริง ๆ แล้วก็มีวิตามิน C มากไม่แพ้กับเลมอนและสตรอเบอร์รี่เลย นอกจากนี้ยังมีคุณค่าสารอาหารสูงอย่างเช่นแคโรทีนที่สร้างผิวแข็งแรงกลุ่มวิตามิน B ที่เพิ่มการเผาผลาญ ขอแนะนำในการป้องกันการเมาค้างด้วย

  1. เกรปฟรุต – หยิบมาเลยในช่วงไดเอ็ต

มีคุณสมบัติพิเศษจากบรรดาผลไม้ทั้งหลาย คือมีน้ำตาลน้อย มีแคลอรีต่ำอยู่ที่ระดับ 80 kcal สำหรับขนาดผลกลาง ๆ อุดมไปด้วยวิตามิน C และแคลเซียม แล้วก็มีไลโคปีนที่ใช้ในการป้องกันการแก่ก่อนวัยสำหรับชนิดสีทับทิมด้วย จะขาดไม่ได้เลยในการสร้างผิวสวยที่ชุ่มชื่น

  1. ออเรนจ์ – ความสมดุลของวิตามินจะสุดยอด

ลักษณะเด่นคืออุดมไปด้วยสารอาหารอย่างเช่นวิตามิน C วิตามิน A ที่นำไปสู่ผิวมีชีวิตชีวา กลุ่มวิตามิน B ที่เพิ่มการเผาผลาญน้ำตาลและไขมัน วิตามินจะเพิ่มอัตราการดูดซึมถ้าผสมกันตั้งแต่ 2 ชนิดขึ้นไป กลิ่นหอมของส้มก็มีประสิทธิภาพในการผ่อนคลายด้วย

  1. กล้วย – อาหารในการไดเอ็ตที่ทำให้การเผาผลาญสูงขึ้น

ในกล้วยมีน้ำตาลที่จะทำให้พลังงานได้ทันทีอยู่มากมาย ขอแนะนำให้กินเป็นอาหารเช้า และยังอุดมไปด้วยกลุ่มวิตามิน B ที่จะเพิ่มการเผาผลาญน้ำตาลและไขมัน นอกจากนี้ยังมีเส้นใยอาหารและโปแตสเซียมที่ดีต่อการแก้ท้องผูกและการบวมน้ำด้วย

    12. ส้มยูซุ – จะสร้างส่วนผสมให้ผิวสวยตั้งแต่เปลือกจนถึงเนื้อเลย

จะทำให้อัตราการดูดซึมขจองกรดซิทริคที่ช่วยบรรเทาความเหนื่อยล้า และวิตามิน C ที่ให้ภูมิต้านทานโรค & ไวท์เทนนิ่งสูงขึ้นเพราะมีวิตามิน P มีส่วนผสมที่จะนำไปสู่ผิวสวยและการป้องกันชั้นเซลล์ผิวอยู่ในผิวส้มยูซุด้วย นอกจากนี้สามารถทำเป็นบ่อน้ำร้อนยูซุได้โดยการใส่เปลือกลงในอ่างอาบน้ำ

    13. เลมอน -ถ้ารู้สึกว่าเหนื่อยล้าล่ะก็ต้องยกให้เป็นหน้าที่ของผลไม้นี้

เลมอนที่อุดมไปด้วยวิตามิน C นอกเหนือจากประสิทธิภาพไวท์เทนนิ่งแล้ว ยังมีประสิทธิภาพในการคลายความเครียดและเพิ่มภูมิต้านทานโรค นอกจากนี้ยังมีกรดซิทริคอยู่ด้วย ดังนั้นถ้ากินในตอนที่รู้สึกเหนื่อยล้าก็จะดีมาก รับประกันได้ว่าการบีบเลมอนบนอาหารทอดจะช่วยเพิ่มการแตกตัวของไขมัน

    14 . มะละกอ – ผลไม้ดีท็อกซ์อันดับ 1 ที่มีพลังในการขจัดพิษ

มะละกอมีฤทธิ์ในการขจัดพิษสูง พูดได้ว่าเป็นผลไม้แห่งการดีท็อกซ์ สามารถขับสารพิษในตับและนำไปสู่ผิวสวย นอกจากนี้ยังมีวิตามิน A ที่ทำให้ผิวแข็งแรงและวิตามิน C ที่เกี่ยวข้องกับการเพิ่มภูมิต้านทานโรคด้วย มีแม้กระทั่งแคลเซียมและธาตุเหล็ก จงเป็นผลไม้ที่เยี่ยมที่สุด

    15. มะม่วง – ให้ผิวที่แข็งแรงด้วยประสิทธิภาพวิตามิน A

ปริมาณวิตามิน A ที่มีอยู่นั้น แม้แต่ในบรรดาผลไม้ด้วยกันก็ยอยู่ในระดับท็อปคลาส มีประสิทธิภาพในการปกป้องเยื่อเมือกในร่างกาย การสร้างผิวที่มีสุขภาพดีและแข็งแรง นอกจากนี้ยังมีวิตามิน C โปแตสเซียมและกรดโฟลิกอยู่มากมาย เพราะในกรดโฟลิกจะมีฤทธิ์ในการเพิ่มเม็ดเลือดอยู่ สาว ๆ  ที่มีแนวโน้มจะเป็นโลหิตจางจึงต้องทานให้เต็มที่

    16. สับปะรด – จะเร่งให้เกิดการย่อยด้วยเอนไซม์เต็มที่

การที่รู้สึกที่ลิ้นตอนที่กินสับปะรดนั้น มีสาเหตุมาจากเอนไซม์ เพราะเอนไซม์ทำให้โปรตีนแตกตัว ถ้ากินพร้อมกับอาหารจำพวกเนื้อจะเร่งให้เกิดการย่อย นอกจากนี้วิตามิน B จะช่วยเร่งการแตกตัวของน้ำตาล จึงเพิ่มการเผาผลาญได้ด้วย

  1. สาลี่ – แก้อาการบวมน้ำและทำให้ขาสวยเรียบเนียน

เป็นผู้เชี่ยวชาญในการแก้อาการบวมน้ำด้วยประสิทธิภาพ W ของกรดแอสพาราจีนและโปแตสเซียมที่มีฤทธิ์ในการขับปัสสาวะ มีน้ำตาลอยู่มาก จึงมีความเป็นไปได้ในการฟื้นคืนความเหนื่อยล้า นอกจากนี้ยังมีเส้นใยอาหารและส่วนผสมที่ทำให้อุจจาระนิ่ม จึงขอแนะนำในการแก้อาการท้องผูกด้วย

    18. กีวี่ – วิตามินที่มีอยู่มากมายจะสร้างร่างกายที่ไม่เป็นสนิม

วิตามิน E ที่มีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระและมีประโยชน์ในการสร้าคอลลาเจน วิตามิน C ที่ดีต่อการชะลอวัย กีวี่จะช่วยคงผิวสวยชุ่มฉ่ำด้วย 2 พลังนี้เส้นใยอาหารจะช่วยในการทำงานร่วมกันในการแก้อาการท้องผูกด้วย

    19. เมลอน – ขอแนะนำให้กินเป็นอาหารเช้าจะช่วยป้องกันการบวมน้ำด้วย

อุดมไปด้วยโปแตสเซียม จึงเหมาะในการแก้อาการบวมน้ำ เพราะว่ามีน้ำตาลมาก ถ้ากินในตอนเช้าก็จะเปลี่ยนเป็นพลังงานได้ทันที ทำให้ดำเนินชีวิตใน 1 วันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยแก้อาการท้องผูกด้วยเส้นใยอาหารและชะลอวัยด้วยส่วนผสมป้องกันความร่วงโรยที่เป็นลักษณะเฉพาะตัวของเมลอน

    20. ลูกแพร์ – ด้วยเส้นใยอาหารที่มีมากมายจึงมีประสิทธิภาพต่ออาการท้องผูก

เมื่อสุกแล้ว ปริมาณเส้นใยอาหารและน้ำตาลที่มีอยู่จะเพิ่มมากขึ้นกว่าสาลี่ น้ำตาลจะบรรเทาความเหนื่อยล้าและเส้นใยจะแก้อาการท้องผูก โปแตสเซียมก็มีอยู่มากมาย จึงดีต่อการบวมน้ำด้วย นอกจากนี้น้ำลูกแพร์สามารถใช้แทนยาแก้ไอได้ในตอนที่เป็นหวัด

21. องุ่นเขียว – บรรเทาความเหนื่อยล้าด้วยพลังของน้ำตาล

เพราะองุ่นเขียวมีน้ำตาลอยู่มาก จึงช่วยบรรเทาความเหนื่อยล้า และมีวิตามิน C อยู่มาก จึงกล่าวได้ว่ามีผลต่อการชะลอวัยและสร้างผิวสวย องุ่นเขียวมีสารอาหารอยู่ที่เปลือกด้วย เพราะฉะนั้นถ้าทำเป็นน้ำผลไม้ทั้งเปลือกก็จะได้รับประสิทธิภาพที่ดี

22. แตงโม – นำไปสู่ผิวอ่อนเยาว์ด้วยพลังไลโคปีน

แตงโมอุดมไปด้วยสารไลโคปีนที่มากกว่ามะเขือเทศ สารไลโคปีนเป็นส่วนผสมที่จะป้องกันการร่วงโรยของเซลล์ผิว จึงขาดไม่ได้เลยในการสร้างผิวที่อ่อนเยาว์ นอกจากนี้ยังมีโปแตสเซียมอยู่มากมายที่ช่วยแก้อาการบวมน้ำและมีแคลอรีต่ำประมาณ 80 Kcal ต่อ 1 ชิ้นบาง ๆ จึงเหมาะกับการไดเอ็ตด้วย

     23. บลูเบอร์รี่ – ทั้ง ๆ ที่ผลเล็กนิดเดียว แต่มีพลังมหาศาล

ถ้าพูดถึงบลูเบอร์รี่ล่ะก็ สารแอนโธไซยานินจะเป็นส่วนประกอบที่มีชื่อเสียงซึ่งถูกกล่าวว่าเป็นชนิดหนึ่งของสารโฟลีฟีนอลและมีประสิทธิภาพในการฟื้นคืนความสามารถในการมองเห็นและความเหนื่อยล้าของดวงตา นอกจากนี้ยังมีฤทธิ์ต่อต้านอนุมูลอิสระที่เข้มข้นด้วย จึงดีต่อการชะลอวัยและการป้องกันมะเร็ง

24. องุ่นแดง – ฟอกเลือดและป้องกันการเสื่อมของหลอดเลือด

ในเปลือกขององุ่นแดงจะอุดมไปด้วยโฟลีฟีนอลที่ชื่อว่าสารแอนโธไซยานิน ถูกกล่าวว่าจะมีประสิทธิภาพที่ดีต่อสุขภาพตา จะฟอกเลือกให้สะอาดและชะลอวัย นอกจากนี้โปแตสเซียมที่มีอยู่จะช่วยขับน้ำและแก้อาการบวมน้ำได้ด้วย

 

เป็นยังไงกันบ้างละคะ พลังความงามของผลไม้ แต่ละชนิด คราวนี้รู้กันแล้วอย่าลืมเก็บสูตรนี้ไว้ เวลาเลือกทานอะไรจะได้รู้ว่ามันให้ประโยชน์ด้านไหนกับเราบ้างนะคะะ

 

 

Share this :

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

19 − 14 =